เด็กชายอายุ 13 แอบขี่รถจักรยานยนต์พ่อ ชนเก๋งติดใต้ท้องถูกลากไถจนเสียชีวิต

เด็กชายอายุ 13 แอบขี่รถจักรยานยนต์พ่อ ชนเก๋งติดใต้ท้องถูกลากไถจนเสียชีวิต

วันที่ 18 เม.ย. รายการเช้านี้ที่หมอชิต รายงานอุบัติเหตุเด็กชายอายุ 13 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถเก๋งก่อนที่ร่างของเด็กชายไถลไปติดอยู่ใต้ท้องรถ ถูกลากไถกับพื้นถนนจนเสียชีวิต ณ ถนนสายลพบุรี-วังม่วง ทางหลวงหมายเลข 3017 หมู่ที่ 6 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์สภาพพังยับเยิน ชิ้นส่วนแตกกระจายเกลื่อนพื้น พบรถเก๋งสีขาวจอดอยู่สภาพด้านหน้าถูกชนจนยุบ ใต้ท้องรถมีร่างเด็กชายชั้น ม.1 อายุ 13 ปี เสียชีวิตติดอยู่ ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์สภาพพังยับเยิน ชิ้นส่วนแตกกระจายเกลื่อนพื้น พบรถเก๋งสีขาวจอดอยู่สภาพด้านหน้าถูกชนจนยุบ ใต้ท้องรถมีร่างเด็กชายชั้น ม.1 อายุ 13 ปี เสียชีวิตติดอยู่

นางสาววิไล เสมอเหมือน อายุ 28 ปี คนขับรถเก๋ง 

เธอเล่าว่า กำลังขับรถพาพ่อไปโรงพยาบาล เห็นเด็กชายขี่รถจักรยานยนต์สวนมาด้วยอาการส่ายไปมาแล้วพุ่งเข้ามาชนอย่างแรง ลูกสาวพยายามเหยียบเบรกแต่รถไถลไปประมาณ 10 เมตร แต่ตำรวจ ระบุว่า คำให้การของคนขับรถเก๋งขัดแย้งกับร่องรอยการชน ที่รถอยู่ในเลนขวาคล้ายแซงแต่ไม่พ้น ซึ่งจะต้องตรวจสอบพยานหลักฐานและสอบปากคำทั้งคนขับรถเก๋งและผู้เห็นเหตุการณ์ต่อไป

ด้านนายพรศักดิ์ เขียวมณี อายุ 32 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต บอกว่าลูกชายแอบขี่รถออกมาโดยที่เขาไม่รู้ ตอนแรกคิดว่าเอารถไปล้าง แต่มารู้อีกทีตอนที่ตำรวจโทรศัพท์ไปบอก

จะทำการปิดการจราจรเมื่อขบวนผ่าน สำหรับเส้นทางใดที่ขบวนยังไม่ผ่าน หรือเส้นทางใด ที่ขบวนผ่านไปแล้ว และไม่เป็นการกระทบต่อขบวน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณาเปิดการจราจรเป็นช่วง ๆ ไป เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกการจราจรให้กับประชาชนโดยเร็ว เพื่อให้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการจราจรน้อยที่สุด

กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ได้ทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมวางแผนในการเดินทาง และขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลข โทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษา ให้รัฐจ่ายค่าโง่ “โฮปเวลล์” 11,888 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย ค่าโง่โฮปเวลล์ – วันที่ 22 เม.ย. เวลา 10.00 น.   ศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ให้บังคับคดีโฮปเวลล์ชนะคดีตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการให้ภาครัฐจ่าย รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี พร้อมคืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท ที่ออกโดยธนาคารกรุงเทพ ซึ่งประกอบด้วยเงินที่บริษัทได้ชำระเป็นค่าตอบแทนจากการใช้ประโยชน์จากที่ดินของ รฟท. ถึงก่อนวันบอกเลิกสัญญาเป็นเงิน 2,850 ล้านบาท รวมถึงเงินค่าออกหนังสือค้ำประกัน 38 ล้านบาท และเงินค่าก่อสร้าง 9,000 ล้านบาท โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนับคดีถึงที่สุด วันนี้มีเพียงทนายความของฝั่งของบริษัทโฮปเวลล์ เดินทางมาฟังคำพิพากษา ส่วนฝั่งของกระทรวงคมนาคม และ รฟท. ไม่มีตัวแทนเดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษา

นึกว่าหิมะ! ภาพลูกเห็บขาวโพลนเกลื่อน หลังพายุฤดูร้อนถล่มเชียงใหม่ ชาวเน็ตเก็บภาพลูกเห็บที่ตกเกลื่อนพื้นที่หลังจากที่พายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่อย่างรุนแรง ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก หลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เนื่องจากมีต้นไม้โค่นลงมาทับเสาไฟฟ้าและสายไฟ และหลายพื้นที่ การจราจรถูกปิดกั้นเนื่องจากมีต้นไม้โค่นลงมาพาดถนน ชาวบ้านไม่สามารถสรรจรไปมาได้

พ่อตรอมใจตาย หลังรู้ลูกสาวโดนเพื่อนฆ่าหั่นศพ ทิ้งหัวที่ชายหาด ประเทศโปรตุเกส

หมอนวดสาวไทยถูกฆ่าหั่นศพ โปรตุเกส – วันที่ 22 เม.ย. จากกรณีเมื่อวันที่ 7 เม.ย. รายงานการพบศีรษะของ น.ส.ณัชยา หญิงสาวชาวไทยริมชายหาดเขตเทศบาลเลซา เด ปัลเมรา เมืองมาโตซินโญส์ เขตโปร์ตู หรือ ปอร์โต ประเทศโปรตุเกส ต่อมาตำรวจโปรตุเกสสามารถจับกุมตัวคนร้ายคือ นางสงาม อายุ 52 ปี เพื่อนชาวไทยที่ทำอาชีพหมอนวดด้วยกัน โดยสาเหตุการฆาตกรรมในครั้งนี้มาจากการทะเลาะเรื่องเงินจำนวน 10,000 ยูโร ที่นำมาลงทุนทำร้านนวด

คืบหน้าล่าสุด ิผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังบ้านจ.สุรินทร์ บ้านของ นางนัชยา เจนจบ อายุ 41 ปี ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัว หลังทราบข่าวสะเทือนใจนี้ นายเมียด เจนจบ อายุ 86 ปี ผู้เป็นพ่อซึ่งป่วยติดเตียงมานานถึงกับตรอมใจตายตามลูกสาวไป เมื่อ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนนางเสย เจนจบ อายุ 76 ปี มารดาก็ล้มหมอนนอนเสื่ออีกคนด้วยความเสียใจ เอาแต่ร้องไห้เมื่อนึกถึงลูกสาว เนื่องจากลูกสาวเป็นคนดีและหาเงินมาจุนเจือครอบครัว

นางสมหวัง ใจงาม อายุ 46 ปี พี่สาวของนางนัชยา เจนจบ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า สถานทูตได้โทรมาบอกอบต.ว่าน้องสาวเสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 เม.ย.62 ทันที่ที่ทราบข่าวพ่อถึงกับเป็นลม ทุกคนร้องให้กันหมด ผู้ตายเป็นคนดีมาก พี่น้องรักทุกคน น้องสาวไปทำงานต่างประเทศได้ประมาณ 2 ปี แม้ไม่เคยกลับมาบ้านแต่ก็ส่งเงินมาช่วยทางบ้านทุกเดือน ครั้งสุดท้ายได้คุยกันเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ว่าให้ดูแลพ่อกับแม่ให้ดีนะและให้ทำบุญถวายผ้าไตรในงานบุญให้ด้วย น้องสาวมีลูก 1 คน กับสามีเก่า ที่ จ.ศรีสะเกษ ขึ้น ป. 3 ปีนี้ ซึ่งลูกทราบเรื่องแล้ว

สำหรับเรื่องศพ ทางสถานทูตจะประสานมาทางกำนันให้ทราบอีกครั้ง ญาติบอกว่าอยากจะได้ศพน้องมาทำบุญแต่มีค่าใช่จ่ายมาก ครอบครัวก็หาเช้ากินค่ำ ถ้าเอาศพเขามาทางเราก็ไม่มีเงิน เป็นไปได้อยากได้กระดูกของน้องสาวมาทำบุญที่บ้าน หากใครมีจิตศรัทธาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็อยากให้เขาช่วยเหลือส่งกระดูกน้องสาวมาทำบุญที่บ้าน